เบบี้บุดดา พระพุทธเจ้าน้อย ความเป็นมา อานิสงส์การสร้างพระปางประสูติ เบบี้บุดดา
พระพุทธรูปปางประสูติ หรือ พระพุทธเจ้าน้อย บูชาแล้วพบแสงสว่าง นำชีวิตสู่ความดีงาม
พระพุทธรูปปางประสูติ คนไทยนิยมเรียกกันว่า ‘พระพุทธเจ้าน้อย’ เป็นพระพุทธปฏิมาที่สร้างขึ้นจากเหตุการณ์ในพระพุทธประวัติ เมื่อครั้นพระพุทธเจ้าทรงประสูติ คติการสร้างพระพุทธเจ้าน้อยมาจากพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน ซึ่งเป็นที่รู้จักและปรากฏพระพุทธรูปปางนี้อย่างแพร่หลายในประเทศจีน ทิเบต เนปาล และ ญี่ปุ่น องค์พระปางประสูติแฝงเอาไว้ด้วยความหมายอันลึกซึ้ง
เหตุอัศจรรย์ ประสูติพระพุทธเจ้า
เมื่อพระโพธิสัตว์ได้จุติ และประสูติเป็นมนุษย์ พระองค์ทรงอยู่ในพระครรภ์ของพระมารดานามว่า 'พระนางสิริมหามายา' พุทธมารดาผู้สั่งสมบารมี เป็นขัตติยนารีที่อุดมด้วยเบญจกัลยาณี และถือศีลห้าอย่างบริบูรณ์ พระนางสิริมหามายาทรงสุบินว่า มีพญาช้างเผือกใช้งวงจับดอกปทุมสีขาว พร้อมเปล่งเสียงดังกึกก้อง มาเวียนประทักษิณรอบที่บรรทมของพระนาง จากนั้นพระนางสิริมหามายาก็เข้าสู่พระครรภ์ในทันที
ครั้นพระมหาโพธิสัตว์ได้มาจุติในครรภ์ของพระมารดา เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว มีรัศมีจ้าสว่างไสวทั่วทุกสารทิศ เรื่องน่าอัศจรรย์ใจอย่างหนึ่งคือ พระมหาโพธิสัตว์ที่อยู่ในครรภ์ของพระมารดา รู้สึกว่าในพระครรภ์มิได้คับแคบแต่อย่างใด ส่วนพระนางสิริมหามายาก็รู้สึกสบายตัว ราวกับว่าพระองค์ไม่ได้ทรงพระครรภ์เลย อีกทั้งพระนางยังเห็นพระโอรสในพระครรภ์นั่งขัดสมาธิอยู่ตลอดเวลา
เมื่อพระนางสิริมหามายามีอายุพระครรภ์ครบ ๑๐ เดือน พระนางอยากเดินทางกลับเทวทหนคร เพื่อประสูติพระราชโอรสที่บ้านเกิด พระเจ้าสุทโธทนะ กษัตริย์แคว้นสักกะ ได้รับสั่งให้ทำถนนหนทาง และประดับตกแต่งตามรายทางอย่างดี พร้อมจัดข้าราชบริพารจำนวนมากมาย เพื่อให้พระนางสิริมหามายาพอพระทัยตลอดการเสด็จเดินทาง
ระหว่างทาง ขบวนเสด็จได้เดินผ่านสวนลุมพินี ต้นสาละกำลังออกดอกสีแดงบานสะพรั่ง พระนางสิริมหามายาเต็มไปด้วยความรื่นรมย์ อยากแวะชมสวน เมื่อพระนางนึกอยากจะชมกิ่งใด กิ่งดอกไม้นั้นก็จะโน้มกิ่งลงมาถึงพระหัตถ์ของพระนาง เป็นลักษณะของผู้มีบุญบารมีอย่างแท้จริง
ขณะกำลังชื่นชมกับดอกไม้ต้นสาละนั้นเอง พระนางสิริมหามายาเกิดลมกัมมัชวาต (ลมเบ่ง) ในพระครรภ์ ข้าราชบริพารรีบพากันเตรียมจัดสถานที่คลอดให้ ไม่กี่อึดใจ พระมหาโพธิสัตว์ได้ประสูติจากครรภ์พระมารดา ในท่ายื่นพระหัตถ์ผายออกซ้ายขวา และ ก้าวเท้าออกจากพระครรภ์ พระวรกายของพระองค์ทรงไม่เปรอะเปื้อนด้วยของไม่สะอาดใดๆ เมื่อทอดพระเนตรตรวจดูทิศทั้ง ๑๐ ทิศ มิเห็นผู้ใดเสมอเหมือน พระองค์จึงเสด็จย่าง ๗ ก้าว มีดอกบัวผุดขึ้นรองรับพระบาท ๗ ดอก พร้อมเปล่งอสภิวาจาว่า
'เราเป็นผู้เลิศของโลก เราเป็นผู้ใหญ่ในโลก เราเป็นผู้ประเสริฐที่สุดของโลก
ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย บัดนี้การเกิดอีกมิได้มี'
พระพุทธเจ้า โอรสผู้มีบารมี แม้แต่พระบิดาที่เป็นกษัตริย์ยังกราบไหว้
หลังการประสูติ พระนางสิริมหามายาและพระโอรสได้เดินทางกลับกรุงกบิลพัสดุ์ เมื่อพระโอรสอายุได้ ๓ วัน อสิตดาบส ซึ่งเป็นดาบสที่ศากยวงค์ของกษัตริย์ให้ความเคารพอย่างยิ่ง ได้เดินทางลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อต้อนรับพระราชโอรส พระเจ้าสุทโธทนะจึงรับสั่งให้ข้าราชบริพารทรงเครื่องพระโอรส แล้วพาพระโอรสไปนมัสการอสิตดาบส ซึ่งพิธีนี้เปรียบเสมือนการอุ้มลูกอุ้มหลานไปขอพรกับพระในกาลปัจจุบัน
อสิตดาบสเห็นลักษณะพระโอรสแล้ว ทราบด้วยญาณในทันทีว่า พระโอรสจะเติบใหญ่เป็นพระพุทธเจ้าอย่างไม่ต้องสงสัย หากข้าราชบริพารนมัสการพระโอรสลงแทบเท้าอสิตดาบส ย่อมเป็นการไม่สมควร ศีรษะของอสิตดาบสจะต้องแตกออกเป็น ๗ เสี่ยงอย่างแน่นอน ทันใดนั้นเอง อสิตดาบสจึงลุกออกจากที่นั่ง แล้วประนมมือกราบแทบเท้าพระราชโอรส
พระเจ้าสุทโธทนะเห็นเช่นนั้น เกิดความอัศจรรย์ใจ แม้แต่พระดาบสจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ยังกราบพนมมือไหว้พระโอรส เช่นนั้นแล้ว พระเจ้าสุทโธทนะ ผู้เป็นพระบิดาและกษัตริย์จึงได้กราบไหว้พระโอรสตามด้วยเช่นกัน
พระพุทธเจ้าน้อย พระพุทธรูปปางประสูติ บูชาแล้วนำชีวิตสู่ความดีงาม
องค์พระพุทธเจ้าน้อย มีลักษณะพุทธปฏิมาเป็นรูปบุคคลในวัยเยาว์ สัญลักษณ์แทนพระโพธิสัตว์สิทธัตถะราชกุมาร ทรงยืนอยู่บนดอกบัว ปลายพระดัชนีของพระหัตถ์ขวาชี้ขึ้นสู่เบื้องบน ปลายพระดัชนีของพระหัตถ์ซ้ายชี้ลงเบื้องล่าง ดังเหตุการณ์เดียวกันกับเมื่อครั้นพระพุทธเจ้าทรงประสูติ พร้อมเสด็จย่าง ๗ ก้าว และมีดอกบัวผุดขึ้นรองรับฝ่าพระบาท ๗ ดอก
ความนิยมของพระพุทธเจ้าน้อย ได้ถูกเผยแผ่เข้ามาในประเทศไทยเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง ด้วยคติความเชื่อการสร้างพระพุทธเจ้าน้อยที่มีมาช้านานแล้วว่า ผู้ใดบูชาพระพุทธรูปปางประสูติ หรือ พระพุทธเจ้าน้อย จะได้เป็นผู้เริ่มต้นชีวิตอันเจริญรุ่งเรือง ดังอากัปกิริยาเริ่มแรกของพระพุทธเจ้า ที่พระองค์ทรงตั้งปณิธานอย่างแน่วแน่ ว่าพระองค์คือผู้ประเสริฐที่สุดของโลก และชาตินี้จะเป็นชาติสุดท้ายที่พระองค์จะถือกำเนิด
ชาวพุทธผู้รู้เป้าหมายของการดำเนินชีวิตของตัวเอง มีปณิธานอันแน่วแน่ เป็นบุคคลที่สมบูรณ์ การบูชาพระพุทธเจ้าน้อยปางประสูติ ลักษณะพุทธปฏิมาชี้ฟ้า ชี้ดิน เสมือนการเปิดหนทางแห่งแสงสว่าง ทำให้ผู้บูชาดำเนินชีวิตไปสู่ความดีงาม รับโชคลาภ รับวาสนา รับบารมี ได้รับการคุ้มครองภัยทั้งปวง ผู้ปกครองคนหมู่มากจะเป็นผู้มีเมตตา ศัตรูผู้ปองร้ายใดๆ จะกลายเป็นมิตร
อานิสงส์การสร้างพระพุทธเจ้าน้อยถวายวัด เป็นการบำเพ็ญกุศลครอบคลุมบุญกิริยาวัตถุ พึงกระทำความดีในทางพระพุทธศาสนาอันสำคัญทั้ง ๓ ประการ ได้แก่ การให้ทาน, การรักษาศีล และ การเจริญจิตตภาวนา นอกจากจะเป็นมหาบุญกุศล ก่อเกิดความเป็นสิริมงคลต่อตนเอง และครอบครัวแล้ว โชคลาภที่ประเสริฐยิ่ง คือการเผื่อแผ่บุญกุศลถึงชาวพุทธบุคคลอื่น ให้พึงระลึกถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เปิดหนทางสว่างให้แก่ผู้ศรัทธา ได้พบกับการดำเนินชีวิตที่ดีงามเฉกเช่นเดียวกัน
ผู้สนใจสร้างพระพุทธเจ้าน้อยถวายวัด ร่วมสะสมบุญกุศลกับโรงหล่อพระเสาชิงช้า ร้านรุ่งเรืองพานิช ร้านขายพระพุทธรูปใหญ่ที่สุดในเสาชิงช้า โรงหล่อพระประสบการณ์มากกว่า ๗๐ ปี รับหล่อพระพุทธรูปทุกแบบ และทุกขนาดตามสั่ง ฝีมือช่างสืบทอดวิชาปั้นจากคนกรุงเก่า มั่นใจในคุณภาพผลงานปฏิมากรพระพุทธรูป สามารถเข้ามาขอแนะนำจาก 'คุณนุช' และ 'คุณแนน' ผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาการเลือกพระพุทธรูป หล่อองค์พระประธาน สร้างพระพุทธเจ้าน้อย พร้อมทำพิธีกรรมทางศาสนาอย่างถูกต้อง ครบถ้วนทุกกระบวนความ ให้การทำบุญของท่านบริบูรณ์ด้วยบุญกิริยาวัตถุ
โรงหล่อพระเสาชิงช้า ร้านรุ่งเรืองพานิช ส่งเสริมการทำบุญ บูชาพระพุทธเจ้าน้อย ในงบประมาณที่ลูกค้าสบายใจที่สุด เข้ามาเยี่ยมชมความสวยงามของปฏิมากรพระพุทธรูปนับพันแบบ ที่ร้านรุ่งเรืองพานิช บนถนนบำรุงเมือง ร้านหลังคาสีน้ำเงิน อาณาจักรพระพุทธรูปขนาดใหญ่อลังการ สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับร้านเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ คุณนุช (089-245-9949) และ คุณแนน (083-550-5936) เจ้าของร้านรุ่งเรืองพานิช พร้อมออกมาให้บริการลูกค้าทุกท่านด้วยตัวเอง เพราะทุกงานบุญ คือความปีติยินดีจากใจจริงของเรา
ร้านพระ เสาชิงช้า คลังพระพุทธรูป และเครื่องสังฆภัณฑ์แห่งแรกในเสาชิงช้าโดย รุ่งเรืองพานิช
โทรศัพท์ : 089-245-9949 , 083-550-5936 , 091-445-9495
LINE : https://line.me/ti/p/@rungruangpanich1
Facebook : https://www.facebook.com/rungruangsaochingcha
E-Mail : peerayatam@yahoo.com