พระพุทธเมตตา ประวัติ และทำไมคนจึงนิยมสร้างพระพุทธเมตตา
การสร้างพระประธาน 'พระพุทธเมตตา' เป็นบุญที่หาทำได้ยาก
ณ เมืองพุทธคยา ประเทศอินเดีย มีต้นพระศรีมหาโพธิ์เป็นที่เล่าขานกันมานานนับพันปีว่า ณ ที่แห่งนี้ เป็นสถานที่ตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ปัจจุบันตั้งอยู่ภายในอาณาเขตของวัดพระมหาโพธิ์ ไม่ไกลจากนั้นมีองค์พระประธานประดิษฐานอยู่ใจกลางมหาเจดีย์พุทธคยา พุทธศาสนิกชนทั่วโลกไม่ว่าจะเชื้อชาติใด ต่างหลั่งไหลเข้ามากราบไหว้บูชาด้วยความศรัทธา และองค์พระประธาน ณ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนั้นก็คือ 'องค์พระพุทธเมตตา'
ตำนาน 'พระพุทธเมตตา' พุทธคุณอันแรงกล้า ส่งตรงถึงหัวใจของศัตรู
พระพุทธเมตตาแห่งมหาเจดีย์พุทธคยา เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่มีอายุมากกว่า ๑,๔๐๐ ปี พระพุทธปฏิมามีความงดงามอย่างยิ่ง องค์พระทำจากหินแกรนิตสีดำ แกะสลัก ปิดทองเหลืองอร่าม สร้างขึ้นในสมัยตาละ
ตำนานพุทธคุณของพระพุทธเมตตา เกิดขึ้นในศตวรรษที่ ๑๓ ครั้งนั้นมีกษัตริย์ของฮินดูนามว่า 'พระเจ้าสาสังกา' ผู้ต้องการประกาศตนเป็นอิสระจากแคว้นมคธ จึงได้กรีฑากองทัพมาทำลายจุดศูนย์รวมจิตใจของประชาชนในแคว้นมคธ ซึ่งก็คือดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งต้นพระศรีมหาโพธิ์นี้เอง ที่แห่งนี้เปรียบเสมือนเป็นหัวใจสำคัญของชาวพุทธแคว้นมคธ ผู้คนต่างนับถือกราบไหว้บูชากันมาช้านาน และยังเป็นดินแดนที่ทำให้พระพุทธศาสนาสามารถแผ่ขยายด้วยศรัทธาได้อย่างกว้างขวาง
พระเจ้าสาสังกาวางแผนตั้งตนเป็นอิสระ ด้วยการทำลายต้นพระศรีมหาโพธิ์และองค์พระพุทธรูปทั้งหมด เพื่อปลดขวัญและกำลังใจของกษัตริย์และประชาชนในแคว้นมคธ ให้ถูกบั่นทอนทำลายลงจนสิ้น เพื่อเปิดโอกาสให้การยกทัพตีเมืองหลวงเป็นเรื่องที่กระทำได้ง่ายขึ้น เนื่องจากกษัตริย์และทหารไม่มีขวัญและกำลังใจหลักให้พึ่งพาอีกแล้ว
เมื่อพระเจ้าสาสังกาเดินทางมาถึงต้นพระศรีมหาโพธิ์ ได้สั่งให้ทหารทำลายกิ่งก้านและตัดต้นพระศรีมหาโพธิ์ทิ้ง ไม่ว่ารากไม้ของต้นพระศรีมหาโพธิ์จะชอนไชไป ณ ที่แห่งใด เลื้อยยาวเพียงใด ก็จะต้องถอนรากถอนโคนออกให้จนหมดสิ้น ด้วยประสงค์ที่ไม่ต้องการให้ต้นพระศรีมหาโพธิ์สามารถแตกหน่อ หรือมีโอกาสเจริญเติบโตงอกขึ้นมาซ้ำได้อีก
พระเจ้าสาสังกาต้องการทำลายสัญลักษณ์ของพุทธศาสนาให้สิ้นซาก ซึ่งนั่นก็คือองค์พระพุทธรูปทั้งหมดในดินแดนต้นพระศรีมหาโพธิ์ เพื่อไม่ให้ศาสนาพุทธที่เปรียบเสมือนตัวแทนของแคว้นมคธ สามารถเผยแพร่ขยายในดินแดนใดๆ ได้อีกต่อไป แต่ในตอนนั้นเองที่พระเจ้าสาสังกาได้เหลือบเห็นพระพักตร์เอิบอิ่มขององค์พระพุทธเมตตา รัศมีความสง่างดงามที่แผ่ออกมาจากองค์พระ ทำให้พระเจ้าสาสังกาไม่กล้าทำลายองค์พระพุทธเมตตาด้วยตัวเอง จึงออกคำสั่งให้อำมาตย์เสนาบดีขนย้ายพระพุทธเมตตาออกมาจากมหาวิหารแทน
อำมาตย์เสนาบดีก้าวเท้าสู่มหาวิหาร ในขณะที่พวกเขากำลังง้างอาวุธยุทโธปกรณ์ขึ้นหวังจะทำลายองค์พระพุทธเมตตาตามคำสั่ง สายตาก็เพ่งไปยังพระจักษุของพระพุทธเมตตา พบเพียงแต่ความเมตตาที่แผ่ออกมาจากองค์พระเท่านั้น พระพักตร์ของพระพุทธเมตตานั้น ให้เพียงความสุขใจ และไม่มีส่วนใดเลยบนพระพักตร์ของพระพุทธเมตตาที่จะเป็นศัตรูต่อชาวโลก
เหล่าอำมาตย์เสนาบดีเกิดความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา ได้เห็นพระเนตรของพระพุทธเมตตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอารีนั้นแล้ว ไม่กล้าแม้แต่จะเบียดเบียนผู้มีเมตตา หรือคิดจะทำลายองค์พระประธานแม้แต่น้อย เสนาบดีจึงอ้างกับพระเจ้าสาลังกา ขอประวิงเวลาในการขนย้ายองค์พระพุทธเมตตาเป็นเวลา ๗ วัน เนื่องจากองค์พระมีขนาดใหญ่มาก ไม่สามารถขนย้ายสำเร็จได้ภายในวันเดียว
ใน ๗ วันนั้น เหล่าอำมาตย์เสนาบดีได้วางแผนใช้แผ่นอิฐมาก่อเป็นกำแพง บดบังองค์พระพุทธเมตตาไว้อย่างมิดชิด ครั้นเมื่อไปกราบทูลพระเจ้าสาสังกาว่า ได้ขนย้ายองค์พระพุทธเมตตาออกจากมหาวิหาร และทำลายองค์พระลงจนสิ้นซากแล้ว พระเจ้าสาสังกากลับแน่นิ่งเสีย ไม่รู้สึกยินดีปรีดาตามความประสงค์ พระเจ้าสาสังกาหวนกลับนึกถึงพระพักตร์ขององค์พระพุทธเมตตาในใจอีกครั้ง พระองค์ทรงเสียพระทัยอย่างหนัก จนโลหิตไหลออกจากพระโอษฐ์และพระนาสิก พระเจ้าสาสังกาสิ้นใจเสด็จสวรรคตลงต่อหน้าหมู่อำมาตย์เสนาบดี ณ ที่ตรงนั้น สิ้นสุดการประกาศตัวเป็นเอกราชของกองทัพพระเจ้าสาสังกาในทันใด
พระพุทธเมตตา ตัวแทนแห่งความเมตตาขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
การสวรรคตของพระเจ้าสาสังกา ทำให้กองทัพพระเจ้าสาสังกาต่างอกสั่นขวัญแขวน หนีกระเจิงเอาตัวรอดไปคนละทิศทาง กษัตริย์แคว้นมคธนามว่า 'พระเจ้าปุรณวร' เสด็จเดินทางมาถึงดินแดนแห่งต้นพระศรีมหาโพธิ์ หลังทราบเหตุทันที พระองค์ทรงแกะแผ่นอิฐออกด้วยพระองค์เอง ปรากฏองค์พระพุทธเมตตาเบื้องหน้า องค์พระประธานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนแคว้นมคธที่ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี แม้จะถูกสิ่งก่อสร้างบดบังไว้ไม่ให้มองเห็น แต่ภายในยังคงมีการวางโคมไฟประทีปเพื่อบูชาองค์พระพุทธเมตตา แสดงให้เห็นถึงพุทธคุณของพระพุทธเมตตา ที่สามารถหลอมละลายจิตใจของศัตรู ให้บังเกิดซึ่ง 'ความเมตตา' ต่อเนื่องไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ปัจจุบันองค์พระพุทธเมตตาประดิษฐานอยู่ใจกลางมหาเจดีย์พุทธคยา ไม่ไกลจากต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่ยังคงแผ่กิ่งก้านสาขา เปรียบดั่งพระพุทธศาสนาที่งอกงามในจิตใจของพุทธศาสนิกชนทั่วโลก พระพักตร์ของพระพุทธเมตตาเสมือนเป็นตัวแทนของการระลึกถึงพระเมตตาคุณของพระพุทธเจ้า ผู้ทรงเมตตาสั่งสอนไวนัยสัตว์ ทั้งเทวดาและมนุษย์ ให้พบหนทางแห่งการดับซึ่งทุกข์ เพื่อจักได้เจริญจิตภาวนา พบกับการดับสนิทอย่างไม่เหลือซึ่งแห่งกิเลส และกองทุกข์ทั้งปวง
อานิสงส์การสร้างพระประธาน 'พระพุทธเมตตา'
ว่ากันว่าการสร้างพระพุทธเมตตา เป็นบุญที่หาทำได้ยาก เพียงร่วมบุญทาองค์พระพุทธเมตตาด้วยสีเหลืองทองอร่าม ก็ได้บุญมากแล้ว ดังนั้นการสร้างองค์พระพุทธเมตตาเป็นพระประธานจึงเป็นมหากุศลอันยิ่งใหญ่ องค์พระพุทธเมตตาเป็นสัญลักษณ์ของการสืบทอดพระพุทธศาสนามานับพันปี ช่วงหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่พระพุทธศาสนาถูกทำลายให้ออกห่างจากจิตใจของคน พระพุทธเมตตาก็ยังคงประดิษฐานอย่างมั่นคง ยืนหยัดแผ่กระจายความเมตตาของพระองค์ให้ผู้คนเกิดความศรัทธาได้ใหม่ สร้างความเจริญงอกงามในพระพุทธศาสนาได้อย่างไม่มีเสื่อมคลาย มานานกว่าหนึ่งพันสี่ร้อยปี
ผู้ร่วมทำบุญสร้างพระพุทธเมตตา ย่อมเป็นการเสริมอานิสงส์ทานบารมี จักได้ปลดพันธนาการชีวิตที่ตรึงไว้ด้วยโมหะ โทสะ และโลภะ มีลาภยศศักดิ์ เป็นที่เคารพรักของบุคคล มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และเจริญด้วยทรัพย์สมบัติ องค์พระพุทธเมตตาปิดทองเหลืองอร่าม ผู้สร้างพระพุทธรูปด้วยทองคำ ย่อมได้อานิสงส์ไพศาล จะปรารถนาเป็นผู้พบนิพพานในกาลเบื้องหน้า ก็จะสำเร็จดังความตั้งใจ
การสร้างพระพุทธรูป สร้างพระพุทธเมตตา ไม่ว่าจะด้วยวัตถุธาตุใดก็ตาม ถือว่าเป็นการสะสมมหากุศลมหาบารมีให้เกิดขึ้นกับตัว จักเป็นอุปนิสัยปัจจัยแก่มนุษยสมบัติ สวรรคสมบัติ นิพพานสมบัติ และพุทธสมบัติในกาลต่อไปเบื้องหน้า แม้แต่พระพุทธรูปที่เขียนบนใบลาน ก็มีอานิสงส์ให้อยู่สุขได้นานถึง ๕ กัปเลยทีเดียว
ทำบุญสร้างพระพุทธรูป หล่อพระพุทธเมตตา ราคาร่วมบุญกับ ร้านรุ่งเรืองพานิช โรงหล่อพระเสาชิงช้าที่มีประสบการณ์หล่อพระ ปั้นตามสัดส่วนตำราโบราณมานานกว่า ๗๐ ปี เราช่วยให้ลูกค้าทุกท่านมาร่วมทำบุญได้อย่างสบายใจ ในงบประมาณที่ท่านพึงพอใจ ร้านรุ่งเรืองพานิช สร้างพระพุทธเมตตา ราคาส่งต่อบุญในแบบที่หาไม่ได้จากที่อื่น อิ่มบุญและอิ่มใจ ทั้งผู้ให้และผู้รับ
องค์พระพุทธเมตตาที่ท่านสร้าง จะเป็นศูนย์รวมจิตใจ สืบสานพระพุทธศาสนาให้อยู่คู่กับพุทธศาสนิกชนตราบนานเท่านาน เกิดเป็นสิริมงคล เป็นบุญที่หาทำได้ยากสำหรับตัวท่านเอง ตลอดจนพุทธศาสนิกชนที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง ได้เข้ามากราบไหว้บูชาองค์พระพุทธเมตตา เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลในชีวิต สายบุญเหล่านั้นก็จะไหลย้อนกลับมาเป็นสิริมงคลให้แก่ตัวผู้สร้างอย่างไม่รู้จบ
สนใจสอบถามพระพุทธเมตตา ราคาร่วมบุญจาก ร้านรุ่งเรืองพานิช ร้านพระเสาชิงช้า ติดต่อ 'คุณนุช' (089-245-9949) และ 'คุณแนน' (083-550-5936) เจ้าของร้านรุ่งเรืองพานิช รุ่นที่ ๓ ที่ต้องการออกมาให้บริการและอำนวยความสะดวกลูกค้าทุกท่านด้วยตัวเอง เพื่อให้แน่ใจว่าคุณมาถึงร้านรุ่งเรืองพานิช เสาชิงช้า ของแท้ โปรดถามหาเจ้าของร้าน คุณนุช และ คุณแนน เท่านั้น เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้กราบอนุโมทนาบุญกับลูกค้าทุกท่าน ด้วยบริการที่เต็มเปี่ยมด้วยจิตศรัทธา และความจริงใจของเรา
ร้านพระ เสาชิงช้า คลังพระพุทธรูป และเครื่องสังฆภัณฑ์แห่งแรกในเสาชิงช้าโดย รุ่งเรืองพานิช
โทรศัพท์ : 089-245-9949 , 083-550-5936 , 091-445-9495
LINE : https://line.me/ti/p/@rungruangpanich1
Facebook : https://www.facebook.com/rungruangsaochingcha
E-Mail : peerayatam@yahoo.com