พาชมความสวยงามของพระประธานในพระอุโบสถของไทย

ชมพระประธานที่สวยที่สุดในวัดไทย มีวัดไหนบ้าง?

พระประธานในพระอุโบสถ

หากพูดถึงจุดเด่นของวัดไทยใครๆ ก็ต้องนึกถึงความสวยงามขององค์พระประธาน ที่ดูน่าเลื่อมใส น่ากราบไหว้สักการบูชา พระประธานในประเทศไทยมีความหลากหลายและมีความสำคัญกับสถาบันศาสนาและวัฒนธรรมของประชาชนชาวไทยเป็นอย่างมาก และเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมที่หลากหลาย ไม่ว่าคุณจะไปเยี่ยมชมวัดหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ในประเทศไทย คุณจะได้เห็นพระประธานปรากฏอยู่ทุกที่ที่คุณไป วันนี้เราจึงได้รวบรวม 10 อันดับ พระประธาน ที่ได้รับคำนิยมในความงดงามมากที่สุดในประเทศไทย ก่อนอื่นมาดูกันเลยว่าพระพุทธรูปคืออะไร และมีกระบวนการสร้างอย่างไร

หลายท่านคงได้เคยไปกราบพระประธานตามวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย อาจจะต้องเคยเห็นพระพุทธรูปหรือองค์พระประธานที่แตกต่างกันออกไป ทั้งขนาด สีสัน และรูปร่าง รวมไปถึงการใช้วัสดุในการหล่อ เพราะถ้าหากเป็นพระประธานที่มีขนาดใหญ่มาก จะต้องใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงค่อนข้างมาก 

วิธีการหล่อพระในอดีต ช่างจะก่ออิฐถือปูนเป็นหลัก แต่ในยุคต่อมา ช่างได้มีการพัฒนาคิดค้นโดยใช้ “ทองเหลือง” ในการหล่อพระประธานซึ่งเป็นวัสดุที่มีความทนทานและแข็งแกร่งกว่าปูนมาก พระทองเหลืองจึงเป็นที่นิยมกันมาจนถึงปัจจุบัน

ขั้นตอนการหล่อพระปัจจุบันจะต้องเคี่ยวขี้ผึ้งให้ร้อนแล้วเทลงไปในแม่พิมพ์เพื่อที่จะทำพระพุทธรูปแบบขี้ผึ้ง จากนั้นต้องมานำมาตอกตะปูตามจุดต่าง ๆ แล้วหุ้มด้วยส่วนผสมของปูนปลาสเตอร์ ทราย และน้ำ จากนั้นก็ใช้ลวดพันให้แน่นและทำปากตอกเพื่อจะได้นำเข้าเตาเผาและรอให้ขี้ผึ้งไหลออก จากนั้นค่อยเทใส่ส่วนผสมของน้ำทองเหลืองร้อนเข้าไปแทนขี้ผึ้ง แล้วค่อยทุบปูนที่มีออกให้หมด เสร็จแล้วก็จะได้พระพุทธรูปแบบทองเหลือง สุดท้ายก็นำมาขัดและตกแต่ง นำไปลงรักปิดทองก็จะได้องค์พระพุทธรูปที่งดงาม

จะเห็นได้ว่าขั้นตอนการสร้างพระประธานนั้นมีหลายขั้นตอนและค่อนข้างยาก โดยต้องอาศัยฝีมือช่างผู้ชำนาญงานโดยเฉพาะ ในวันนี้เราจึงจะพาทุกท่านไปชม 10 อันดับองค์พระประธานในประเทศไทย ที่สวยงดงามและสะกดสายตาเป็นอย่างมาก จะมีองค์ไหนบ้างเราไปชมกันเลย

10 อันดับองค์พระประธานที่งดงามที่สุดในประเทศไทย

  1. พระพุทธชินราช 
    พระพุทธชินราชได้รับการยอมรับว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามที่สุดองค์หนึ่งและยังเป็นพระพุทธรูปที่นิยมจำลองกันมากที่สุดในประเทศไทย นอกจากนี้ยังเป็นพระพุทธรูปที่ประชาชนชาวไทยศรัทธาและนิยมเดินทางมากราบไหว้มากที่สุดองค์หนึ่งด้วย


    พระพุทธชินราชเป็นพระประธานศิลปะสุโขทัย มีพระเกศรัศมียาวเป็นเปลวเพลิง มีพระพักตร์ค่อนข้างกลมไม่ยาวรี ซุ้มเรือนแก้วแกะสลักด้วยไม้สัก ลงรักปิดทอง ซึ่งเป็นสิ่งที่จะช่วยเน้นให้พระวรกายของพระพุทธชินราชดูงดงามมากยิ่งขึ้น เอกลักษณ์ของพระพุทธชินราชอย่างหนึ่งคือ นิ้วพระหัตถ์ทั้งสี่ยาวเสมอกัน พระมหาธรรมราชาที่ 1 ได้โปรดให้สร้างพระพุทธชินราชขึ้นเมื่อปี พ.ศ.1900 และประดิษฐานอยู่ที่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารตั้งอยู่ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก

  2. หลวงพ่อทองคำ วัดไตรมิตร หรือพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร
    หลวงพ่อทองคำ ประดิษฐานอยู่วัดไตรมิตรวิทยาราม เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย แต่เดิมพระพุทธรูปถูกพอกปิดด้วยปูนขาวทั่วทั้งองค์ แต่เนื่องมีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมาก ทำให้ระหว่างการเคลื่อนย้ายลวดสลิงที่ผูกไว้ได้ขาดลง ทำให้กระแทกกับพื้นและปูนที่พอกปิดองค์หลวงพ่อได้กะเทาะหลุด ทำให้เห็นเนื้อในของหลวงพ่อเป็นทองคำบริสุทธิ์ และได้มีการสกัดปูนออกหมด จึงได้เห็นเป็นองค์พระเนื้อทองคำขนาดใหญ่ที่งดงามอย่างมีเอกลักษณ์ที่อัศจรรย์ยิ่ง เพราะถูกออกแบบมาให้ถอดออกได้เป็น 9 ชิ้น คือ พระพาหาทั้งสอง พระหัตถ์ทั้งสอง พระชงฆ์ทั้งสอง พระเพลาทั้งสอง และตรงพระศอ โดยมีกุญแจสำหรับถอดและประกอบกันเข้าแล้วก็สนิทเหมือนเป็นเนื้อเดียวกัน


  3. พระพุทธอังคีรส วัดราชบพิธ
    พระพุทธอังคีรสเป็นพระประธานในพระอุโบสถวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ประดิษฐานอยู่บนฐานชุกชีหินอ่อนจากประเทศอิตาลี พระนาม “พระพุทธอังคีรส” แปลว่ามีรัศมีซ่านออกจากพระวรกาย หล่อขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4  ต่อต้นรัชกาลที่ 5  อะไหล่ทองคำเนื้อแปดหนัก 180 บาท เป็นทองที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงใช้เมื่อยังทรงพระเยาว์ เดิมพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจะทรงนำไปประดิษฐานที่พระปฐมเจดีย์ แต่สิ้นรัชกาลเสียก่อน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ ให้นำมาประดิษฐานเป็นพระประธานในอุโบสถวัดราชบพิธ เมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2415


  4. พระศรีศากยมุนี พระประธานในพระวิหารวัดสุทัศน์เทพวราราม 
    พระศรีศากยมุนี วัดสุทัศนเทพวราราม เป็นพระประธานหล่อด้วยโลหะสัมฤทธิ์ หน้าตักกว้าง 3 วา 1 คืบ ที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกได้รับสั่งให้ย้ายพระศรีศากยมุนีมาประดิษฐานไว้ที่วัดสุทัศน์เทพวรารามจนถึงปัจจุบันนี้ นับเป็นพระพุทธรูปหล่อที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ในยุคก่อน 25 พุทธศตวรรษ


  5. พระพุทธเทวปฏิมากร วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร
    พระพุทธเทวปฏิมากร เป็นพระพุทธรูปศิลปะอยุธยา ปางสมาธิ หล่อสำริด ลงรักปิดทองคำ ในอุโบสถวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร เดิมประดิษฐานอยู่วัดคูหาสวรรค์ แต่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกได้โปรดเกล้า ฯ ให้สถาปนาวัดโพธิ์ในปี พ.ศ. 2331 และสร้างพระอุโบสถ พระระเบียง พระวิหาร แล้วเสร็จใน พ.ศ. 2344 แล้วให้อัญเชิญพระพุทธรูปจากวัดศาลาสี่หน้ามาประดิษฐาน ณ พระอุโบสถ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร พร้อมทั้งตั้งชื่อใหม่ว่า ‘พระพุทธเทวปฏิมากร’ และประดิษฐานมาจนถึงทุกวันนี้


  6. พระพุทธไสยาสน์ หรือพระนอน วัดโพธิ์
    พระพุทธไสยาสน์ หรือ พระนอนวัดโพธิ์ ประดิษฐานอยู่ ณ พระวิหารวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร องค์พระประธานก่อด้วยอิฐถือปูนลงรักปิดทองทั้งองค์ เป็นพระนอนที่มีขนาดยาวเป็นอันดับที่ 3 ของประเทศไทย ตามประวัติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวได้โปรดเกล้า ฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อตอนที่ทรงปฏิสังขรณ์วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม โดยทรงมีพระราชดำริว่า พระพุทธรูปปางสำคัญได้สร้างขึ้นในวัดนี้หลายปางแล้ว ขาดแต่ปางไสยาสน์เท่านั้น จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระปางไสยาสน์องค์นี้ขึ้น โดยงานพุทธศิลป์พระพักตร์ที่โดดเด่น และฝีมือของการฝังมุกที่พระบาทขององค์พระ ทำให้ได้รับการยกย่องว่าองค์พระพุทธไสยาสน์เป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นด้วยฝีมือของช่างทองที่ยากหาใครเสมอเหมือนแห่งศิลปะรัตนโกสินทร์ตอนต้น


  7. พระพุทธชินสีห์ วัดบวรนิเวศวิหาร
    พระพุทธชินสีห์ เป็นพระประธานเนื้อสัมฤทธิ์ ปางมารวิชัย  นับว่าเป็นพระพุทธรูปที่สวยงามมากที่สุดพระองค์หนึ่ง  ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ภายพระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร พระพุทธชินสีห์ สร้างขึ้นคราวเดียวกันกับพระพุทธชินราช พระศรีศาสดาและพระเหลือ เดิมประดิษฐานอยู่ในพระวิหารด้านเหนือของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก ต่อมาพระวิหารชำรุดทรุดโทรมลง ขาดการปฏิสังขรณ์ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงโปรดให้อัญเชิญมาประดิษฐานที่วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อพุทธศักราช ๒๓๗๒


  8. พระพุทธไตรรัตนนายก วัดพนัญเชิง
    พระพุทธไตรรัตนนายก หรือหลวงพ่อโต นับว่าเป็นพระโบราณคู่บ้านคู่เมืองกรุงศรีอยุธยามาตั้งแต่แรกสร้างกรุง เป็นพระประธานปูนปั้น ปางมารวิชัย ลงรักปิดทองคำ


    หน้าตักกว้างประมาณ 20 เมตร สูง 19 เมตร เป็นที่เคารพสักการะของประชาชนทั่วไปมาตั้งแต่โบราณกาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวจีนซึ่งขนานนามหลวงพ่อโตองค์นี้ว่า “ซำปอกง”

    นอกจากชาวไทยแล้วยังมีผู้มีเชื้อสายจีนหลั่งไหลกันมากราบไหว้บูชาจำนวนมากและเป็นประจำทุกปี

  9. พระมงคลบพิตร วัดมงคลบพิตร 
    พระมงคลบพิตร วัดมงคลบพิตร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นพระประธานก่ออิฐเป็นแกนแล้วบุด้วยทองสำริดหุ้มทอง สูง 12.45 เมตร วัดมงคลบพิตร ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าใครเป็นผู้สร้าง สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาระหว่างปี พ.ศ. 1991–2145


    พระพักตร์แม้จะมีลักษณะค่อนข้างเป็นวงรี แต่ก็ยังคงเห็นเค้าพระพักตร์เป็นเหลี่ยมอยู่ ซึ่งเป็นพุทธลักษณะแบบอยุธยาตอนต้น เมื่อพิจารณาถึงเส้นพระขนงที่โค้ง ก็จะพบว่าเป็นศิลปะที่ผสมผสานกับศิลปะสุโขทัยอีกด้วย นับเป็นพระพุทธรูปหล่อขนาดใหญ่ที่สุดองค์หนึ่งของประเทศไทย

  10. พระศรีศากยะทศพลญาณ ประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์ 
    พระศรีศากยะทศพลญาณ จัดว่าเป็นพระประธานพุทธมณฑล สร้างในโอกาสงานฉลอง 25 พุทธศตวรรษ ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างในปี พ.ศ. 2500 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2525 เป็นพระพุทธรูปยืนปางลีลาขนาดใหญ่ พุทธลักษณะทรงยกพระบาทขวาจะก้าว ห้อยพระหัตถ์ขวาท่าไกว พระหัตถ์ซ้ายยกเสมอพระอุระป้องไปเบื้องหน้าเป็นกิริยาเดิน หล่อด้วยทองสำริดหนัก 17,543 กิโลกรัม โดยแบ่งหล่อเป็นชิ้นต่าง ๆ ขององค์พระรวม 137 ชิ้น แล้วจึงนำไปประกอบกับโครงเหล็กบนฐานพระพุทธรูป เพื่อเชื่อมรอยต่อ และปรับแต่งให้เป็นเนื้อเดียวกัน เป็นพระพุทธรูปสูง 15.875 เมตร ถือเป็นพระพุทธรูปลีลา หล่อด้วยทองสำริดที่มีลักษณะงดงาม และมีขนาดใหญ่ที่สุดในสมัยรัตนโกสินทร์

สำหรับพระประธาน ทั้ง 10 องค์ที่ได้กล่าวไปข้างต้นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของพระพุทธรูปในประเทศไทยเท่านั้น ยังมีองค์พระประธานที่งดงามในประเทศไทยอีกมากมายหลายแห่งให้เราได้ไปกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลการที่จะหล่อพระพุทธรูปให้มีความงดงามได้นั้น จะต้องสร้างขึ้นโดยช่างมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญ หากคุณกำลังมองหาร้านขายพระพุทธรูป ที่มีมาตรฐานสามารถเลือกได้ที่ร้าน รุ่งเรืองพานิช หากคุณกำลังมองหาพระประธาน หลายขนาด ร้านพระ เสาชิงช้า รุ่งเรืองพานิช คุณนุชและคุณแนนยินดีให้คำปรึกษาอย่างจริงใจ ให้คุณทำบุญได้อย่างสบายใจ ในราคาย่อมเยา อีกทั้งยังมีบริการจัดส่งทั่วไทยและทั่วโลก

รุ่งเรืองพานิช ร้านพระ เสาชิงช้า จำหน่ายพระพุทธรูปทุกแบบ ทุกขนาด และจำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์แห่งแรกในเสาชิงช้า มีสินค้ามากมาย เราเป็นโรงหล่อพระ อาทิ พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง ทุกแบบ ทุกขนาด ให้เลือกมากที่สุด ถูกที่สุด สินค้าที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม เพื่อให้ทุกท่านได้ทำบุญได้อย่างสบายใจ

ร้านพระ เสาชิงช้า คลังพระพุทธรูป และเครื่องสังฆภัณฑ์แห่งแรกในเสาชิงช้าโดย รุ่งเรืองพานิช

โทรศัพท์ : 089-245-9949 , 083-550-5936 , 091-445-9495
LINE : https://line.me/ti/p/@rungruangpanich1
Facebook : https://www.facebook.com/rungruangsaochingcha
E-Mail : peerayatam@yahoo.com