หลวงปู่ทวด และ สมเด็จพุฒาจารย์(โต) พระเกจิอาจารย์ ที่นิยมในประเทศไทยอันดับต้นๆ

เหตุผลที่พระหลวงปู่ทวด และรูปหล่อสมเด็จพุฒาจารย์โต ได้รับความนิยมในชาวไทยพุทธนานนับร้อยปี

หากพูดถึงพระมหาเกจิอาจารย์ของเมืองไทย ที่เหล่าพุทธศาสนิกชนไทยให้ความศรัทธาอย่างกว้างขวาง 'หลวงปู่ทวด' และ 'หลวงปู่โต' คือสองพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงอภิญญาที่มีคนกราบไหว้บูชาในทุกช่วงยุคสมัยจนถึงปัจจุบันกาล ดังปรากฏหลักฐานแรงศรัทธาจากความนิยมในพระเครื่องหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ และรูปหล่อสมเด็จพุฒาจารย์โต ถูกยกให้เป็นสุดยอดวัตถุมงคลที่มีมูลค่าสูงสุดตลอดกาล ของวงการพระเครื่องไทย

 

สมเด็จพระราชมุนีสามีรามคุณูปมาจารย์ หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด

อัตชีวประวัติของหลวงปู่ทวดนั้น เต็มไปด้วยมงคลอภินิหารมากมายหลายเหตุการณ์ ท่านเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในกลุ่มชาวไทยพุทธและไทยมุสลิม โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย เรื่องน่าอัศจรรย์ของหลวงปู่ทวด เกิดขึ้นตั้งแต่ตอนที่ยังท่านเป็นทารกน้อย มีงูบองหลาเลื้อยนำดวงแก้ววิเศษมาวางไว้ข้างกาย แม้ต่อมาดวงแก้วจะถูกเปลี่ยนมือไปอยู่ในการครอบครองของเศรษฐีปาน แต่ไม่นานนักก็มีเหตุให้ดวงแก้วกลับมาเป็นวัตถุมงคลประจำตัวของหลวงปู่ทวดในท้ายที่สุด

หลวงปู่ทวด บรรพชาอุปสมบทเป็นพระสงฆ์เมื่ออายุครบกาลอุปสมบท ท่านสามารถเรียนภาษาขอม และภาษาไทยได้อย่างรวดเร็ว เป็นเด็กหัวดี เรียนเก่งจนมีความรู้ และได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ทรงอภิญญามาก เมื่อครั้นเป็นภิกษุ หลวงปู่ทวดแสดงปาฏิหาริย์หลายครั้ง ดังเช่นเหตุการณ์ที่ทำให้ท่านถูกขนานนามว่า 'หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด' ขณะเดินทางไปศึกษาเล่าเรียนธรรมเพิ่มเติมที่กรุงศรีอยุธยา โดยขออาศัยเรือสำเภาไปกับชาวบ้านกลุ่มหนึ่ง เกิดเหตุทะเลวิปริต มีพายุใหญ่เกิดขึ้น จึงทำให้เรือต้องหยุดเดิน และต่อสู้กับคลื่นลมอย่างต่อเนื่องนานถึง ๓ วัน ๓ คืน จนน้ำจืดที่ลำเลียงมาในเรือถูกนำไปใช้ดื่มกินจนหมด นายอินเจ้าของเรือออกปากไล่หลวงปู่ทวดให้ลงเรือเล็ก และใช้ลูกน้องให้ไปส่งหลวงปู่ทวดขึ้นฝั่ง หมายจะปล่อยให้ท่านไปตามยถากรรม

ในระหว่างหลวงปู่ทวดย้ายลงเรือเล็ก ท่านได้หย่อนเท้าลงในน้ำทะเล และบอกให้คนในเรือลองตักน้ำชิมดู ปรากฏว่าน้ำทะเลกลายสภาพเป็นน้ำจืดอย่างน่าอัศจรรย์ใจ เจ้าของเรือได้ประจักษ์ในอภินิหารของหลวงปู่ทวด จึงนิมนต์ท่านขึ้นเรือใหญ่ และกราบขอขมาโทษในสิ่งที่กระทำผิดต่อหลวงปู่ จากนั้นเรื่องราวปาฏิหาริย์ของหลวงปู่ทวด จึงถูกเลื่องลือแผ่ขยายไปทั่ว พร้อมกับความศรัทธาในพระพุทธศาสนาของผู้คนในยุคนั้น

สถานที่ออกธุดงค์ของหลวงปู่ทวด กลายเป็นศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์ในเวลาต่อมา โดยเฉพาะ 'วัดพะโคะ' ศาสนสถานเก่าแก่ที่หลวงปู่ทวดท่านเป็นผู้ขอพระราชทานพระกัลปนา บูรณะซ่อมแซมวัดพะโคะที่ทรุดโทรม ฟื้นฟูจนกลายเป็นศูนย์กลางชุมชนพุทธศาสนาที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา เนื่องจากต่อมาบ้านเมืองตกอยู่ในความระส่ำระสาย อำนาจบารมีของพระมหากษัตริย์ก็มิอาจแผ่ลงทั่วผืนแผ่นดินในเวลานั้นได้ ต้องอาศัยพระพุทธศาสนาที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนทุกหมู่เหล่า ให้นำพาประชาชนมาหล่อรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน

สมเด็จพระราชมุนีฯ หรือ หลวงปู่ทวด กลายเป็นผู้นำทางศาสนาแห่งดินแดนปักษ์ใต้ที่มีอำนาจเหนือยิ่งกว่าบรรดาอำมาตย์ขุนนาง เมื่อครั้งที่ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดพะโคะ ได้เทศนาสั่งสอนธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สร้างร่มโพธิ์ร่มไทรให้เกิดขึ้นในหมู่พุทธศาสนิกชน ในห้วงเวลานั้นวัดพะโคะกลายเป็นป้อมปราการศึกสำคัญที่คอยแบ่งเส้นอาณาเขต และต้านอำนาจของต่างศาสนา ตลอดจนเป็นจุดยุทธศาสตร์ป้องกันการโจมตีของโจรสลัดในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งถือเป็นยุทธวิธีทางการเมืองที่สำคัญในการสร้างความมั่นคงให้ราชอาณาจักรไทย

สมเด็จพระราชมุนีสามีรามคุณูปมาจารย์ หรือ หลวงปู่ทวด เป็นพระเกจิอาจารย์ที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่ปรากฏในประวัติศาสตร์ไทย ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ปกป้องเขตแดนโดยใช้ ‘ทัพธรรม’ แทนกองทัพคน ท่านปกครองสงฆ์ภาคใต้ทั้งหมด ให้รวมเป็นปึกแผ่น เสมือนผู้ปกปักดินแดนปักษ์ใต้ และแผ่บารมีไปไกลถึงไทรบุรี ด้วยคำสอนของพระพุทธศาสนาที่เที่ยงแท้

 

ปาฏิหาริย์หลวงปู่ทวด สู่วัตถุมงคลของเมืองไทย ที่มีมูลค่าสูงสุดตลอดกาล

รูปหล่อเหมือนหลวงปู่ทวด สร้างขึ้นครั้งแรกจากภาพนิมิตของพระครูวิสัยโสภณ หรือ หลวงปู่ทิม อดีตเจ้าอาวาสวัดช้างให้ ผู้เลื่อมใสศรัทธาในคำสอนของหลวงปู่ทวดได้สร้าง 'พระหลวงพ่อทวด' ครั้งแรกในปี พ.ศ. ๒๔๙๗ ทำจากเนื้อว่าน ซึ่งปัจจุบันหาดูและหาเช่าได้ยากมากแล้ว ว่ากันว่าหากใครอยากเช่าพระหลวงปู่ทวด รุ่นเลขใต้ฐานปี ๐๕ หมายเลข ๙๙๙ จะต้องใช้เงินเช่าอย่างน้อย ๑๕ ล้านบาท

ตำนานของหลวงปู่ทวดยังคงชัดเจนแม้จะผ่านไปนานกว่า ๔๐๐ ปี ศรัทธาของชาวไทยพุทธที่มีต่อหลวงปู่ทวดยังคงแรงกล้า มิเจือจาง คนไทยนิยมบูชาพระเครื่องหลวงปู่ทวด ไปจนถึงกราบไหว้รูปหล่อหลวงปู่ทวด บารมีพุทธคุณของหลวงปู่ทวด เลื่องลือด้านการช่วยให้แคล้วคลาดจากภัยอันตราย จากปากคำของผู้ศรัทธาที่พบเจอเหตุการณ์อัศจรรย์มากมายด้วยตัวเอง โดยเฉพาะเหตุการณ์รอดจากเหตุเสี่ยงตาย และยังมีคำกล่าวที่ว่าพุทธคุณของหลวงปู่ทวดนั้นครอบจักรวาล หมายถึงครอบคลุมทุกด้าน ทั้งป้องกันภัย เมตตามหานิยม มหาอุด มหาเสน่ห์ รวมถึงการไล่ภูตผี ความอัปมงคล เสนียดจัญไร ให้ชีวิตหลุดพ้นจากสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง

 

สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี บาตรแห่งพระพุทธศาสนาในกรุงรัตนโกสินทร์

อีกหนึ่งพระเกจิอาจารย์ในตำนาน ผู้รวมศรัทธาของพุทธศาสนิกชนไทย สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี อดีตเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร อริยสงฆ์ที่ชาวพุทธไทยนับถือกันมาในทุกรัชกาล ตั้งแต่รัชกาลที่ ๑ จวบจนพระมหากษัตริย์รัชกาลปัจจุบัน แม้แต่เหล่าภิกษุสงฆ์ทุกยุคสมัย ยังยกย่องเชิดชูให้สมเด็จพระพุฒาจารย์โตเป็น 'บาตรแห่งพระพุทธศาสนาจากกรุงรัตนโกสินทร์'

คนไทยนิยมเรียกสมเด็จพุฒาจารย์โตกันอย่างติดปากว่า 'หลวงปู่โต' อริยสงฆ์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ผู้เผยแพร่พระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตลอดชีวิตของหลวงปู่โตท่านใช้ชีวิตเพื่อเป็นคำสอนให้กับเราชาวพุทธทุกคน ท่านมิเคยสรรเสริญในลาภยศใด อยู่อย่างสมถะ เรียบง่าย มีเมตตาแม้แต่กับผู้ที่ทำร้ายท่าน สละยศถาเพื่อออกธุดงค์ ด้วยความต้องการเข้าใจในรสพระธรรม และเมื่อถึงเวลาที่ท่านต้องอยู่เคียงข้างพระมหากษัตริย์ ก็ยังคงดำรงอยู่ในศีลธรรมอย่างไม่บกพร่อง ตักเตือนแม้แต่พระมหากษัตริย์ให้อยู่ในร่องในรอยของธรรม

ไม่มีบันทึกใดในประวัติศาสตร์ กล่าวถึงอัตชีวประวัติของหลวงปู่โตได้อย่างถูกต้องแท้จริง แต่หนึ่งสิ่งสำคัญที่พุทธศาสนิกชนไทยตระหนักรู้ได้อย่างแจ่มแจ้ง คือหลักธรรมคำสอนและการดำรงตนเป็นแบบอย่างของสมเด็จพุฒาจารย์โต แม้กาลเวลาจะผ่านไปนานกว่า ๑๕๐ ปีมาแล้ว แต่รูปหล่อของพระเกจิอาจารย์ สมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ก็ยังคงได้รับความนิยมหล่อสร้างในศาสนสถานของศาสนาพุทธอย่างแพร่หลาย เมื่อเห็นรูปหล่อสมเด็จพุฒาจารย์โตครั้งใด พึงเตือนสติให้ชาวพุทธทุกคนคงอยู่ในศีลธรรม อย่าได้ขาดตกบกพร่อง

สมเด็จพระพุฒาจารย์โต เข้าสู่เส้นทางพระธรรมตั้งแต่ยังเยาว์วัย ชื่อเสียงของท่านเป็นที่จรรโจษทั่วทั้งพระนคร เป็นพระราชาคณะที่อยู่เคียงข้างพระมหากษัตริย์ไทย จวบจนวันสุดท้ายของชีวิต หลวงปู่โตยังคงปฏิบัติเสมือนท่านเป็นเพียงพระภิกษุสงฆ์รูปหนึ่ง มีหน้าที่เผยแพร่ธรรม คอยบากบั่นเพียรเดินทางไปสอนธรรมะให้แก่ชาวบ้านตามที่ต่างๆ แทบทุกวัน อย่างไม่แยกแยะระดับชนชั้นคน ด้วยวิถีสมถะของท่าน จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมเราจึงไม่เคยค้นพบบันทึกอัตชีวประวัติของหลวงปู่โตเลย เพราะสำหรับหลวงปู่แล้ว ชื่อเสียง ยศถา และที่มา มิได้เป็นสาระสำคัญเหนือกว่าพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า จึงมีเพียงคำสอนธรรมจากสมเด็จพระพุฒาจารย์โตเท่านั้น ที่ยังคงดังกึกก้องอยู่ในพระพุทธศาสนาของคนไทยเป็นนิรันดร์ แม้สังขารของท่านจะละจากไปแล้วนานกว่า ๑๕๐ ปี

 

ตำนานรูปหล่อสมเด็จพุฒาจารย์โต ที่สุดของวัตถุมงคลของวงการพระเครื่องไทย

ปัจจุบันชื่อเสียงของสมเด็จพุฒาจารย์โต เป็นที่เลื่องลือพุทธคุณในด้านอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ จอมพล ป. พิบูลสงคราม อดีตนายกรัฐมนตรีไทย เคยรอดตายเพราะบูชาองค์พระสมเด็จมาแล้ว เรื่องราวนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้รูปหล่อสมเด็จพุฒาจารย์โตวัดระฆัง เป็นหนึ่งในวัตถุมงคลขนาดเล็กที่มีมูลค่าสูงมากในวงการพระเครื่อง วัตถุมงคลสมเด็จโตวัดระฆังรุ่นแรก มีเจ้าพระคุณสมเด็จโตเป็นผู้สร้างเองราวปี พ.ศ. ๒๔๐๙ หลังจากที่ได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพุฒาจารย์ ท่านจึงเรียกพระเครื่องที่สร้างขึ้นมานี้ว่า 'พระสมเด็จ'

รูปหล่อสมเด็จพุฒาจารย์โต ถูกสร้างเรื่อยมาจนถึงปี พ.ศ. ๒๔๑๕ โดยมีหลวงวิจารณ์เจียรนัย ช่างทองในพระราชสำนักเป็นผู้แกะพิมพ์ถวาย เจตจำนงการสร้างวัตถุมงคลพระสมเด็จของสมเด็จพุฒาจารย์โตที่แท้จริง คือการเผยแพร่พระพุทธศาสนา แจกจ่ายให้พุทธศาสนิกชนได้มีที่พึ่งทางใจ มีกำลังใจในการดำเนินชีวิต และพึงกระทำคุณความดีอยู่เสมอ ด้วยลักษณะของพระเครื่องที่มีขนาดเล็ก สามารถนำพาไปยังสถานที่ต่างๆ ได้ทั่วทุกหนแห่ง และเผยแพร่การบูชาในพระพุทธศาสนาได้อย่างกว้างขวาง ความนิยมของพระสมเด็จที่ดำเนินมาถึงปัจจุบันกาล เป็นหลักฐานอย่างดีว่า แม้เวลาจะผ่านไปนับร้อยๆ ปี ทั่วหย่อมหญ้าของประเทศไทยก็ยังคงมีพระพุทธศาสนาอยู่

รูปหล่อสมเด็จพุฒาจารย์โตขนาดเท่าตัวจริงองค์แรก ถูกปั้นขึ้นหลังจากท่านมรณภาพในปี พ.ศ. ๒๔๑๕ ประดิษฐานในพระวิหารหน้าพระอุโบสถวัดระฆังโฆศิตาราม ไม่สามารถสืบค้นได้ว่าใครเป็นผู้ปั้น แต่เป็นที่แน่ชัดว่าเกิดจากศรัทธาอันแรงกล้าที่มีต่อเจ้าพระคุณสมเด็จโต ประสงค์ให้หลวงปู่โตอยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้แก่ชาวพุทธไทยตราบนานเท่านาน

ผู้ศรัทธาที่ปรารถนาสร้างรูปหล่อหลวงปู่ทวดถวายวัด หรือถวายรูปหล่อสมเด็จพุฒาจารย์โตในศาสนสถานต่างๆ 'คุณนุช' และ 'คุณแนน' เจ้าของโรงหล่อพระเสาชิงช้า รุ่งเรืองพานิช มีความปีติยินดีอย่างยิ่ง ในการทำหน้าที่เป็นสะพานบุญ รับสร้างรูปหล่อหลวงปู่ทวด และรูปหล่อสมเด็จพุฒาจารย์โตทุกขนาด ทุกวัสดุ ด้วยฝีมือของช่างปั้นที่สืบทอดวิชาปั้นพระปฏิมากรจากกรุงเก่าสมัยอยุธยา

โรงหล่อพระ รุ่งเรืองพานิช ร้านขายพระพุทธรูปเจ้าแรกในเสาชิงช้า สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นกลายเป็นตำนานของโรงหล่อพระเสาชิงช้าที่มีอายุมากกว่า ๗๐ ปี รับหล่อปั้นพระเกจิอาจารย์ทุกรูปแบบ พร้อมทำพิธีมงคลอย่างถูกต้อง ด้วยจิตที่เต็มเปี่ยมศรัทธา มั่นใจได้ว่ารูปหล่อหลวงปู่ทวด และรูปหล่อสมเด็จพุฒาจารย์โตของโรงหล่อพระ รุ่งเรืองพานิช จะถูกหล่อปั้นขึ้นจากแรงศรัทธา พิถีพิถันกับทุกรายละเอียด เพื่อให้หลวงปู่ทวดและขรัวโตของเราชาวพุทธ ได้มานั่งเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้ผู้มีศรัทธาอย่างยาวนานสืบไป

ผู้มีโอกาสสร้างรูปหล่อเสมือนจริงของหลวงปู่ทวด หรือรูปหล่อสมเด็จพุฒาจารย์โตให้พุทธศาสนิกชนเข้ามากราบไหว้ จะแคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตรายจากบารมีพุทธคุณศักดิ์สิทธิ์ของการบูชาหลวงปู่ทวด มีเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ มหาอุด พร้อมน้อมนำคำสอนและธรรมะที่สมเด็จพุฒาจารย์โตทำตนให้เป็นแบบอย่าง ได้ยึดถือและปฏิบัติตาม นำทางสู่ชีวิตที่เจริญรุ่งเรือง พบกับความร่มเย็นเป็นสุข สิ่งเหล่านี้เองที่มีอานุภาพเหนือยิ่งกว่าเครื่องรางมงคลใดๆ

โปรดติดต่อ คุณนุช (089-245-9949) และ คุณแนน (083-550-5936) เจ้าของโรงหล่อพระเสาชิงช้า ร้านรุ่งเรืองพานิช ยินดีให้บริการลูกค้าทุกท่านด้วยความจริงใจ ผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านอยากทำบุญอย่างสบายใจครั้งใด นึกถึงร้านรุ่งเรืองพานิช

 

ร้านพระ เสาชิงช้า คลังพระพุทธรูป และเครื่องสังฆภัณฑ์แห่งแรกในเสาชิงช้าโดย รุ่งเรืองพานิช

โทรศัพท์ : 089-245-9949 , 083-550-5936 , 091-445-9495
LINE : https://line.me/ti/p/@rungruangpanich1
Facebook : https://www.facebook.com/rungruangsaochingcha
E-Mail : peerayatam@yahoo.com